นาฬิกา แบรนด์นาฬิกา

นาฬิกา

นาฬิกา แบรนด์ดัง เป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับวัดเวลา ซึ่งผลิตโดยบริษัทหรือแบรนด์ที่มีชื่อและก็ความน่าวางใจในแวดวงWATCH มักมีการดีไซน์ที่สวยแล้วก็ประสิทธิภาพการสร้างที่ดี เป็นเครื่องหมายของความหรูหราโอ่อ่ารวมทั้งสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ จำนวนมากนิยมใช้เพื่อสำหรับในการแสดงความเป็นตัวตนรวมทั้งความเป็นหัวหน้าในแวดวงรวมทั้งสังคม การเป็นเจ้าของWATCHแบรนด์ดังมักนับได้ว่าเป็นสิทธิพิเศษแล้วก็การลงทุนที่มีคุณค่า

ความหมายของWATCHแบรนด์ดังยังได้รับการเชื่อถือจากผู้ใช้ในด้านประสิทธิภาพรวมทั้งการออกแบบที่สะดุดตา มีความเป็นเอกลักษณ์ที่ต่างกันออกไปจากแบรนด์อื่นๆซึ่งเกิดขึ้นจากประวัติศาสตร์ที่นานแล้วก็ความชำนาญสำหรับเพื่อการผลิตWATCH กล่าวได้ว่าWATCHแบรนด์ดังเป็นเครื่องหมายของความหรูหราโอ่อ่ารวมทั้งความเสถียรภาพในแวดวงWATCHโลกและก็มักเป็นที่เรียกร้องของผู้ที่อยากได้สิ่งที่มีคุณภาพและก็มีค่าในชีวิตประจำวัน แนวทางในการเลือกซื้อWATCHแบรนด์ดังมักเป็นการลงทุนที่มีคุณค่าในระยะยาวรวมทั้งเป็นสิทธิพิเศษที่มีความหมายในแวดวงรวมทั้งสังคม

ยิ่งกว่านั้น วิธีสำหรับการเลือกซื้อWATCHแบรนด์ดังยังเป็นการแสดงถึงรสนิยมและก็วัฒนธรรมของผู้ใช้งานด้วย เพราะมีความมากมายหลากหลายในสไตล์รวมทั้งออกแบบของWATCHแต่ละรุ่น ดังเช่น บางบุคคลบางทีอาจคลั่งไคล้ในWATCHที่มีดีไซน์คลาสสิกรวมทั้งเรียบง่าย ขณะที่บางบุคคลถูกใจWATCHที่มีการดีไซน์นำสมัยและก็นำสมัย เมื่อคุณเลือกสวมWATCHแบรนด์ดัง มันยังมีผลต่อการผลิตบรรยากาศรวมทั้งความมั่นใจและความเชื่อมั่นในตัวคุณเองด้วย นอกเหนือจากนั้นยังมีส่วนของความจำรวมทั้งประสบการณ์ที่เกี่ยวกับวิธีสำหรับการเลือกซื้อWATCHแบรนด์ตามที่สร้างความสบายรวมทั้งความพอใจสำหรับเพื่อการใช้งานอย่างสม่ำเสมอ

นาฬิกา

ยิ่งไปกว่านั้นวิธีการสำหรับเลือกซื้อWATCHแบรนด์ดังยังเป็นการลงทุนที่มีค่าในอนาคต เหตุเพราะWATCHแบรนด์ดังมักมีมูลค่าที่คงเดิมหรือบางทีอาจมากขึ้นตรงเวลา เป็นที่ปรากฏชัดเจนที่นักสะสมWATCHหลายท่านอยากรักษาไว้เป็นสิทธิพิเศษ ยิ่งไปกว่านี้การสั่งสมWATCHแบรนด์ดังยังเกิดเรื่องที่เบิกบานแล้วก็ท้า นาฬิกา ซึ่งบางทีอาจเป็นการต่อรองสำหรับเพื่อการหาดีลที่ดีเยี่ยมที่สุดหรือการตามล่าผลิตภัณฑ์หายาก ด้วยเหตุนี้ วิธีการสำหรับเลือกซื้อWATCHแบรนด์ดังไม่เพียงแค่เป็นการซื้อข้าวของ แต่ว่ายังเป็นการสร้างประสบการณ์และก็ความจำที่มีค่าเอาไว้ภายในตัวของคุณด้วย

การรับซื้อรวมทั้งขายWATCHเป็นกิจกรรมที่มีความนิยมชมชอบในวงกลมนักสะสมWATCHแล้วก็คนที่พอใจในแวดวงWATCHจำนวนมาก WATCHไม่เพียงแค่เป็นเครื่องใช้ไม้สอยที่ใช้สำหรับวัดเวลาแม้กระนั้นยังเป็นเครื่องหมายของความหรูหราเลิศเลอแล้วก็ความเป็นเอกลักษณ์ที่ผิดแผกออกไปของบุคคล การรับซื้อแล้วก็ขายWATCHมีเหตุมีผลหลักอยู่ที่ความพึงพอใจในWATCHจากผู้คนทั่วๆไปและก็นักสะสมWATCH โดยยิ่งไปกว่านั้นในระดับWATCHที่มีชื่อและก็มีค่าเพิ่มมากขึ้น

ถ้าคุณปรารถนารับซื้อWATCH เครื่องWATCHหลายแบรนด์มักมีความพร้อมเพรียงที่จะซื้อเพื่อคืนเงินสดหรือแลกกับWATCHอื่นที่คุณพอใจ การรับซื้อWATCHมักมีสิ่งที่ได้เปรียบที่สำคัญยกตัวอย่างเช่น ความสบายสำหรับเพื่อการได้รับเงินโดยทันที และก็การลดข้อบกพร่องสำหรับการขายผ่านวิถีทางอื่น เป็นต้นว่า วิธีขายผ่านเว็บหรือร้านค้าWATCH ยิ่งไปกว่านี้การรับซื้อWATCHยังเป็นช่องทางที่ดีสำหรับผู้ที่ปรารถนาจำกัดเวลาสำหรับการขายรวมทั้งอยากได้แลกในทันทีทันใด

ในทางตรงกันข้าม วิธีขายWATCHยังเป็นช่องทางที่ดีสำหรับผู้ที่อยากได้กู้ยืมทุนหรืออยากเงินสดสำหรับการใช้ในเป้าประสงค์ต่างๆวิธีขายWATCHยังเป็นวิธีที่เยี่ยมสำหรับการเปลี่ยนหรืออัพเกรดคอลเลคชันของWATCHของคุณ นอกนั้นยังสามารถเข้าถึงวิถีทางแนวทางการขายที่นานาประการอย่างเช่น ร้านค้าWATCHที่มีชื่อ ห้างสรรพสินค้า และยังรวมไปถึงแนวทางการขายออนไลน์ผ่านเว็บหรือแพลตฟอร์มการค้าขายเชื่อใจได้

อย่างไรก็ดี สำหรับในการรับซื้อรวมทั้งขายWATCHมีความหมายที่จะทำประมาณค่าWATCHอย่างถูกทาง โดยการใช้ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญหรือตัวกลมนักวิเคราะห์WATCHเพื่อตีราคาให้ถูกต้องแม่นยำแล้วก็เป็นฐานสำหรับการตกลงใจสำหรับเพื่อการรับซื้อแล้วก็ขายWATCHอย่างเหมาะควร

Tudor Black Bay Chronograph | Siam Watch Club

นาฬิกา เทียบ Tudor & Rolex รุ่นต่อรุ่น และเหตุผลทำไมควรมี Tudor Black Bay ไว้ในคอลเคลชัน

ทั้งWATCH Tudor และ Rolex ต่างเป็นWATCHคุณภาพสูงด้วยกันทั้งคู่ เพียงแต่ว่า Rolex จะมีภาพลักษณ์ที่หรูหรากว่า และมีราคาในระดับที่พรีเมียมมากกว่านั่นเอง อย่างไรก็ตาม Tudor เองก็พยายามอย่างมากที่จะขยับคุณภาพและความพรีเมียมขึ้นไปให้ทัดเทียบกับแบรนด์แม่เช่นกัน

จึงทำให้WATCHส่วนใหญ่ของ Tudor ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Rolex ที่มีต้นกำเนิดจากผู้ก่อตั้งคนเดียวกัน แม้WATCHของทั้งสองแบรนด์จะมีความใกล้เคียงกันมาก แต่เมื่อเปรียบเทียบรุ่นต่าง ๆ โดยคำนึงถึงการออกแบบ ราคา คุณภาพ อย่างละเอียดแล้ว ในสายตาของนักสะสมและคนรักWATCHจะทราบดีว่า ยังมีบางอย่างของทั้งสองแบรนด์ที่แตกต่างกัน เพื่อคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของทางแบรนด์เอง

เมื่อมองเป็นภาพกว้าง ๆ เราจะมองเห็นข้อแตกต่างตามที่กล่าวมาได้ง่ายมาก เช่น นาฬิกา Tudor จะเน้นรูปลักษณ์และความรู้สึกสปอร์ตในเกือบทุกรุ่น WATCH การออกแบบจะเน้นความทันสมัย โฉบเฉี่ยว ในขณะที่ Rolex แม้จะมีWATCHลุค Sport Luxury อยู่หลายรุ่น แต่WATCHเหล่านี้ก็ดูหรูหราพอที่จะสวมใส่ในงานที่เป็นทางการ อาทิ Rolex Submariner ถึงต้นกำเนิดของมันจะเป็นWATCHดำน้ำ แต่กลับเข้ากับชุดสูทหรือทักซิโด้ได้เป็นอย่างดี

Tudor Submariner vs Rolex Submariner

หากคุณชื่นชอบWATCHสไตล์วินเทจ Tudor Submariner เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมนอกเหนือจาก Rolex Submariner เพราะWATCHทั้งสองรุ่นถูกออกแบบมาในลักษณะที่ใกล้เคียงกัน ดีไซน์สปอร์ต ทนทาน ถูกนำมาใช้งานในการดำน้ำ ซึ่งเป็นกีฬายอดนิยมในช่วงกลางศตวรรษที่ 20

ในขณะที่ Rolex Submariner เปิดตัวในปี 1953 Tudor Submariner ก็ทำการเปิดตัวในปี 1954 ตามความคิดของ Hans Wildorf ที่ต้องการนำเสนอWATCHกันน้ำแบบ Submariner ที่มีราคาถูกกว่า Rolex

ความแตกต่างระหว่างทั้งสองแบรนด์อยู่ที่กลไกWATCH Tudor Submariner เลือกใช้กลไกที่ผลิตจากบริษัท outsource ในขณะที่ Rolex Submariner ได้ผลิตกลไกขึ้นเองภายในโรงงานของทางโรเล็กซ์เอง นอกจากนั้น Tudor Submariner ยังไม่รองรับ chronometer เหมือนกับแบรนด์แม่อีกด้วย

WATCHทั้งสองเรือนได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ในขณะที่ Rolex Submariner ยังผลิตต่อไป กลับกันกับ Tudor Submariner ที่ได้ยุติการผลิตแล้ว แต่ก็ยังเป็นที่ต้องการของนักสะสมWATCH โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่ชื่นชอบWATCHสไตล์วินเทจ

Tudor Black Bay GMT vs Rolex GMT-Master II Pepsi

WATCHทั้งสองรุ่นนี้ เรียกได้ว่าเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของทั้งสองแบรนด์ ทั้งคู่ได้รับการออกแบบด้วยดีไซน์ที่ยอดเยี่ยมและให้ลุคที่ดูสปอร์ตหรูหรา ไม่ว่าคุณจะสวมใส่เรือนไหนก็ตาม

สำหรับ Rolex GMT-Master II Pepsi แทบไม่ต้องอารัมภบทให้มากความ เพราะนี่คือหนึ่ง นาฬิกา ในตำนานของ Rolex ซึ่งเป็นที่ใฝ่ฝันของนักสะสมหลาย ๆ คน เพราะ GMT เรือนแรกถูกเปิดตัวในปี 1954 โดยได้รับมอบหมายจาก Pan Am ให้สร้างมันขึ้น เพราะสายการบินต้องการWATCHที่บอกเวลาได้สองไทม์โซนในเวลาเดียวกันให้กับนักบินภายในสายการบิน กรอบน้ำเงิน – แดงนอกจากจะใช้เพื่อบอกกลางวัน/กลางคืนได้แล้ว ยังเป็นสีประจำสายการบิน Pan American Airways อีกด้วย จึงทำให้สีน้ำเงิน – แดง กลายเป็นจุดเด่นของคอลเลคชัน GMT-Master ตั้งแต่นั้นมา

ในปัจจุบัน Rolex GMT-Master II Pepsi ยังคงผลิตอยู่ แต่เป็นรูปแบบเรือนสแตนเลส Ref.126710BLRO และฟังก์ชันที่อัปเกรดขึ้นเป็นเวลาสามไทม์โซน หมุนได้สองทิศทาง พร้อมประสิทธิภาพที่มากขึ้นไปด้วย ทั้งระบบกันน้ำ Triplock กันน้ำได้ 100 เมตร WATCH ขอบหน้าปัดเซรามิก Carachrom สองสี และกลไก Calibre 3285 ที่มีความแม่นยำเป็นอย่างมาก

แต่ในทางกลับกัน Tudor Black Bay GMT เป็นWATCHแบรนด์หรูที่มีราคาเอื้อมถึงได้ ไม่สูงมากเกินไปอย่างแบรนด์แม่ของมัน ทั้งยังยอดเยี่ยมด้วยคุณสมบัติหลายอย่างที่คล้ายคลึงกับ Rolex GMT-Master Pepsi II เกือบทุกประการอีกด้วย

ตัวเรือนเป็นสแตนเลสสตีลขนาด 41 มม. พร้อมผิวเคลือบซาตินอันงดงาม สามารถดูทั้งเวลาและวันที่ GMT ได้ด้วย Cliber MT5652 ซึ่งให้พลังงานสำรองมากถึง 70 ชั่วโมง

ทำให้ความแตกต่างระหว่าง Tudor Black Bay GMT vs Rolex GMT-Master II Pepsi มีไม่มากนัก หากไม่นับกรอบสีฟ้าและแดงจากอลูมิเนียมชุบผิว และเข็มบอกเวลาดีไซน์ Snowflake ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ Tudor โดยเฉพาะ

โดยรวมแล้วสำหรับ Tudor Black Bay GMT คุณจะได้รับความคุ้มค่ามากกว่าการเลือกซื้อ Rolex GMT-Master II ที่มีราคาขายปลีกแพงกว่า Tudor มากกว่าสองเท่า ทั้งยังเป็นแบรนด์ที่เติบโตมากขึ้นเรื่อย ๆ ในแง่ของการพัฒนาที่เทียบเท่าบริษัทแม่ แต่ยังรักษาระดับฐานราคาให้อยู่เท่าเดิม

อีกทั้ง Tudor ขึ้นชื่อเรื่องการเลือกใช้วัสดุในการออกแบบที่มักจะโดดเด่นและมีสีสันมากกว่า Rolex ทำให้เป็นอีกแบรนด์ที่น่าจับตามองในอนาคต เพราะดีไซน์ที่ล้ำค่า สปอร์ต ดูดีและดูมีราคา ไม่จำเป็นต้องถูกประดับด้วยโลหะมีค่าหรือเพชรเหมือนกับแบรนด์แม่เสมอไป

หากคุณเองก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ต้องการสะสม ส่งต่อ หรือแลกเปลี่ยนWATCH Tudor Black Bay GMT และ Rolex GMT-Master II Pepsi สามารถเลือกดูWATCH Tudor และ Rolex ของแท้ มือสอง จาก Siam Watch Club ร้านWATCHอันดับ 1 จากกูรูWATCHตัวจริงได้ที่เว็บไซต์ของเรา

The Da Vinci Watches Collection | IWC SCHAFFHAUSEN

IWC Da Vinci ประวัติศาสตร์การเปลี่ยนแปลงของโลกแห่งเวลา

เชื่อไหมว่าครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของโลกแห่งเวลา สิ่งที่เรียกว่า Perpetual Calendar ที่เราเห็นกันจนชินตาในWATCHของยุคปัจจุบัน เคยเป็นสิ่งล้ำค่าที่ต้องใช้เงินจำนวนมหาศาลหากต้องการจะซื้อWATCHที่มี Perpetual Calendar สักเรือน เพราะนอกจากมันจะเคยเป็นกลไกที่มีความซับซ้อนเป็นอย่างมากแล้ว การจัดวางชิ้นส่วนให้ครบองค์ประกอบเพื่อให้กลไกสามารถทำงานได้ ยังต้องใช้ศาสตร์และความชำนาญระดับสูงอีกด้วย โดยเฉพาะในยุคที่ไม่มีคอมพิวเตอร์และเซ็นเซอร์ช่วย หนังออนไลน์มากมาย ยังไม่นับรวมค่าซ่อมบำรุงที่ต้องใช้เงินจำนวนมาก จึงไม่น่าแปลกใจเวลาว่าทำไมจึงมีแต่ชนชั้นสูงระดับขุนนางและราชวงศ์เท่านั้นที่ได้ครอบครองWATCH Perpetual Calendar

จนกระทั่ง Kurt Klaus หัวหน้าทีมวิศวกรของ IWC ได้ประสบความสำเร็จในการปรับปรุงระบบปฏิทิน Perpetual Calendar ได้สำเร็จ ในปี 1985 ซึ่งการคิดค้นนี้จะช่วยให้WATCHที่มี Perpetual Calendar สามารถบอกวันเวลาได้อย่างแม่นยำไปอีกหลายร้อยปี WATCH เรียกได้ว่าเป็นการค้นพบก้าวใหญ่ของประวัติศาสตร์แห่งโลกของเวลา Kurt Klaus จึงถูกขนานนามว่า ‘โพรมิธิอุสแห่งโลกเวลา’ นั่นเอง

อาจกล่าวได้ว่านี่คือประโยคเปลี่ยนโลกของ Hannes Pantli ผู้อำนวยการฝ่ายขาย IWC ที่พูดกับ Kurt Klaus หลังจาก Klaus และ IWC ได้ร่วมกันสร้างWATCHพกที่สามารถดูข้างขึ้นข้างแรมได้ขึ้นมาจำนวน 100 ชิ้น และขายหมดในเวลาอันรวดเร็วจนเป็นประวัติการณ์ ในงาน Basel Fair ปี 1976

ถือว่าเป็นคำพูดที่เป็นแรงจูงใจที่ดีในการพัฒนาต่อไป ในฐานะหัวหน้าทีมวิศวกรกลไกของ IWC Klaus ต้องการที่จะสร้าง นาฬิกา ข้อมือที่แตกต่าง ไม่ใช่เพียงWATCHข้อมือที่ดูข้างขึ้นข้างแรมได้ หรือเป็นWATCHข้อมือปฏิทินธรรมดา ๆ แต่ยุค 1980 ที่เทคโนโลยียังไม่ล้ำสมัยเท่าปัจจุบัน การคำนวณทั้งหมดจึงต้องผ่านการคิดโดยฝีมือมนุษย์

‘ตอนที่ผมสร้าง Perpetual Calendar ขึ้นมา ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคอมพิวเตอร์คืออะไร ผมก็เลยร่างภาพทั้งหมดลงบนกระดาษวาดภาพ แล้วก็ทำการคำนวณด้วยตัวผมเอง’

ด้วยความใส่ใจจากความหลงใหลในเรือนเวลาของ Klaus จึงกลายเป็นที่มาของกลไกขนาดเล็ก ใช้ชิ้นส่วนที่น้อยลง ทนต่อแรงสั่นสะเทือนได้ดี และแม่นยำในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน ร่วมกับการออกแบบอันแยบยลของ Hano Burtscher ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากป้อมประจำการท่าเรือเมือง Piombio ที่ออกแบบโดย ลีโอนาร์โด ดาวินชี จึงกลายเป็นต้นกำเนิดของWATCHข้อมือที่มาพร้อมฟังก์ชัน Perpetual Calendar ที่เรียกกันว่าคอลเลคชัน Da Vinci

IWC Da Vinci Perpetual Calendar Chronograph Ref. 3750

จากสมองอันปราดเปรื่องของโพรมิธิอุสแห่งโลกเวลา Ref. 3750 จึงถูกเปิดตัวมาในฐานะWATCHเรือนแรกของคอลเคลชัน โดยปฏิทินของมันสามารถใช้งานได้ยาวนานถึง ค.ศ. 2499 และเป็นWATCHรุ่นแรกที่สามารถปรับตั้งค่าผ่านเม็ดมะยมได้ทุกระบบ แตกต่างจากWATCHสมัยก่อนที่ต้องใช้หลายปุ่ม

ด้วยความพิเศษในฐานะWATCHที่บ่งบอกถึงประวัติศาสตร์ที่เปลี่ยนแปลงไปของอุตสาหกรรมWATCH ยอดสั่งจองของ Da Vinci 3750 จึงมียอดจองสูงกว่าทุกแบรนด์รวมกันตลอดเวลาสองปีหลังเปิดตัว

IWC Da Vinci Perpetual Calendar Chronograph Ceramic Case Ref. 3755

IWC ยังคงทำการปฏิวัติอุตสาหกรรม นาฬิกา อย่างต่อเนื่อง เมื่อได้ทำการพัฒนาต่อยอดจาก Da Vinci รุ่นเดิมที่มียอดขายถล่มทลาย สู่วัสดุโฉมใหม่ด้วยการเลือกใช้ Diamond Ceramic มาใช้ผลิตWATCH จนได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นWATCHเซรามิกเรือนแรกของโลก จาก Zirconium Oxide ในรูปแบบเซรามิกครอบทับบนตัวเรือน 18K Yellow Gold ส่งผลให้ Da Vinci 3755 กลายเป็นWATCHที่แข็งแรงและทนรอยขีดข่วนได้ดีที่สุดในยุคนั้น และยังเป็นอีกครั้งที่คอลเลคชัน Da Vinci ได้รับการตอบรับถล่มทลาย เมื่อยอดสั่งจองพุ่งสูงขึ้นกว่า 2,000 เรือน ถือว่าเป็นจำนวนที่มากกว่าทุกแบรนด์ของโลกรวมกันขณะนั้นก็ว่าได้

หลังจากนั้นกลไก Perpetual Calendar ก็ถูกพัฒนามาต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันและถูกใส่ไว้ในWATCH IWC รุ่นต่าง ๆ WATCH ที่ได้เป็นWATCHต้นแบบให้แก่อุตสาหกรรมWATCHทั่วโลก เพราะความรักและหลงใหลในเรือนเวลาของ IWC พวกเขาได้แบ่งปันการพัฒนากลไกให้กับแบรนด์อื่น ๆ นำไปใช้พัฒนาและต่อยอดได้ เพื่อให้เป็นประโยชน์แก่อุตสาหกรรมผลิตWATCH ให้สามารถสร้างสรรค์สิ่งที่ดีขึ้นไปเรื่อย ๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด