
คนละครึ่งพลัส เปิดให้ใช้จ่ายวันแรกแล้ว ย้ำต้องใช้สิทธิครั้งแรกภายใน 11 พ.ย.นี้
โครงการ “คนละครึ่งพลัส” เปิดให้ประชาชนใช้จ่ายวันแรกแล้ว พร้อมย้ำต้องใช้สิทธิครั้งแรกภายในวันที่ 11 พ.ย. 2568 เพื่อไม่ให้ถูกตัดสิทธิ
วันที่ 29 ต.ค. 2568 นายวินิจ วิเศษสุวรรณภูมิ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าการลงทะเบียนและการเตรียมความพร้อมในการใช้จ่ายของประชาชน และความคืบหน้าการลงทะเบียนร้านค้าในโครงการคนละครึ่ง พลัส (โครงการฯ) ดังนี้ คนละครึ่งพลัส เปิดให้ใช้จ่ายวันแรกแล้ว
1. การเตรียมความพร้อมในการใช้จ่ายของประชาชน โครงการฯ ได้เปิดรับลงทะเบียนประชาชนตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม 2568 เป็นต้นมา โดยมีผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ครบจำนวน 20 ล้านรายแล้ว เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2568 ทั้งนี้ ประชาชนผู้ได้รับสิทธิจะสามารถใช้จ่ายได้ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค. 2568 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2568 (เวลา 06.00 – 23.00 น.) ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ซึ่งจะได้รับวงเงินสนับสนุนค่าอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าและบริการที่กำหนดในอัตราร้อยละ 50 ทั้งนี้ ไม่เกิน 200 บาทต่อคนต่อวัน แต่ไม่เกินจำนวนวงเงินสิทธิที่กำหนด โดยประชาชนผู้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเฉพาะแบบ ภ.ง.ด. 90 ภ.ง.ด. 91 หรือ ภ.ง.ด. 95 ในปีภาษี 2567 จะได้รับวงเงินสิทธิไม่เกิน 2,400 บาทต่อคน และประชาชนทั่วไปจะได้รับวงเงินสิทธิไม่เกิน 2,000 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาใช้จ่ายของโครงการฯ

สำหรับการเริ่มใช้จ่ายตามโครงการฯ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทยฯ) ได้มีการเตรียมความพร้อมของระบบเพื่อรองรับการใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ของประชาชนไว้แล้ว อย่างไรก็ดี เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงความแออัดในการใช้งานแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ของประชาชนในวันแรกที่อาจเข้าใช้งานเป็นจำนวนมากพร้อมกัน ประชาชนสามารถสมัครใช้งานบริการ G-Wallet (กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ของภาครัฐ) ที่อยู่ในแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” และเตรียมเติมเงินเข้า G-Wallet ไว้ล่วงหน้า ก่อนวันเริ่มใช้จ่าย เพื่อใช้สำหรับสแกนใช้จ่ายในโครงการฯ หรือทยอยเติมเงินในช่วงเวลาต่าง ๆ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ ผู้ได้รับสิทธิจะต้องใช้สิทธิโครงการฯ โดยซื้อสินค้าหรือบริการในโครงการฯ ครั้งแรกผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ภายในวันที่ 11 พ.ย. 2568 ซึ่งหากพ้นระยะเวลาดังกล่าว จะถือว่าไม่ประสงค์เข้าร่วมโครงการฯ และถูกตัดสิทธิในโครงการฯ
นอกจากนี้ ประชาชนยังสามารถซื้ออาหารหรือเครื่องดื่มจากร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ ผ่านผู้ให้บริการระบบขนส่งอาหาร (Food Delivery Platform) ที่ได้รับอนุมัติให้เข้าร่วมโครงการฯ ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” โดยสามารถใช้สิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 เป็นต้นไป (เวลา 06.00 – 21.00 น.) ซึ่งมีผู้ให้บริการ Food Delivery Platform เข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 4 ราย ได้แก่ คนละครึ่งพลัส เปิดให้ใช้จ่ายวันแรกแล้ว
บริษัท แกร็บแท็กซี่ (ประเทศไทย) จำกัด (Grab)
บริษัท ไลน์แมน (ประเทศไทย) จำกัด (Lineman)
บริษัท ช้อปปี้ (ประเทศไทย) จำกัด (ShopeeFood)
บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด (Robinhood)
2. ความคืบหน้าการลงทะเบียนร้านค้าในโครงการฯ สำหรับความคืบหน้าของการลงทะเบียนร้านค้าในโครงการฯ จากข้อมูลสะสม ณ วันอังคารที่ 28 ตุลาคม 2568 เวลา 15.00 น. มีร้านค้าที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ดังนี้
ร้านค้าที่ลงทะเบียนสำเร็จแล้ว 523,603 ราย
ร้านค้ารายเดิม 94,669 ราย
ร้านค้ารายใหม่ 428,934 ราย
ร้านค้าที่อยู่ระหว่างขั้นตอนการสมัคร 101,741 ราย
รอให้ร้านค้าเข้ามากดยอมรับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขโครงการฯ 97,300 ราย
รอดำเนินการตรวจสอบ 4,441 ราย
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการร้านค้าที่สนใจและมีคุณสมบัติเป็นไปตามเงื่อนไขที่โครงการฯ กำหนด สามารถทยอยลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากโครงการฯ จะเปิดให้ร้านค้าเริ่มรับชำระเงินจากประชาชนผ่านแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ได้ในวันที่ 29 ต.ค. 2568 และร้านค้ายังสามารถลงทะเบียนได้จนกว่ากระทรวงการคลังจะปิดรับสมัครร้านค้าในวันที่ 19 ธ.ค. 2568 คนละครึ่งพลัส เปิดให้ใช้จ่ายวันแรกแล้ว
อย่างไรก็ตาม โครงการฯ ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก โดยมีผู้ลงทะเบียนได้รับสิทธิ จนครบ 20 ล้านสิทธิ อย่างรวดเร็ว อีกทั้ง โครงการฯ ได้มีการปรับเพิ่มวงเงินสิทธิที่รัฐสมทบต่อวันเป็นไม่เกิน 200 บาทต่อคนต่อวัน (เดิม 150 บาทต่อคนต่อวัน) ซึ่งร้านค้าจะได้ประโยชน์จากการร่วมโครงการฯ ในการนี้ โฆษกกระทรวงการคลังจึงขอเชิญชวนร้านค้าสมัครเข้าร่วมโครงการฯ

นอกจากนี้ สำหรับร้านค้าที่สมัครเข้าร่วมโครงการฯ แล้ว ขอให้ตรวจสอบการยินยอม รับทราบ และยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไขในแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ด้วย เพื่อให้การลงทะเบียนร้านค้าสำเร็จ ทั้งนี้ กระทรวงการคลังขอยืนยันว่า จะไม่มีการส่งข้อมูลยอดขายให้กรมสรรพากรแต่อย่างใด. aussie-gamer










Leave a Reply