สหรัฐฯ จ่อชัตดาวน์ หลังทรัมป์–เดโมแครตเจรจาล้มเหลว
สหรัฐอเมริกากำลังเข้าใกล้ภาวะ “ชัตดาวน์” หรือการปิดหน่วยงานรัฐบาลบางส่วนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในคืนวันอังคารนี้ หลังจากการประชุมฉุกเฉินระหว่างประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และผู้นำพรรคเดโมแครตในสภาคองเกรส ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ โดยดูเหมือนว่าทั้งสองฝ่ายต่างยึดมั่นในจุดยืนของตนอย่างแข็งกร้าว
รองประธานาธิบดี เจ.ดี. แวนซ์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังการประชุมที่ทำเนียบขาวว่า “ผมคิดว่าเรากำลังจะเข้าสู่ภาวะชัตดาวน์ เพราะเดโมแครตไม่ยอมทำในสิ่งที่ถูกต้อง” พร้อมกล่าวหาเดโมแครตว่ากำลัง “จ่อปืนที่ศีรษะของชาวอเมริกัน” ด้วยการขู่ปิดรัฐบาลหากไม่ทำตามที่พวกเขาต้องการ
ขณะที่ ชัค ชูเมอร์ ผู้นำวุฒิสภาของพรรคเดโมแครต ยืนยันว่ายังคงมี “ความแตกต่างที่ใหญ่มาก” ระหว่างเดโมแครตกับทำเนียบขาว โดยไม่มีใครแสดงความหวังว่าจะหลีกเลี่ยงสถานการณ์นี้ได้
พรรครีพับลิกันต้องการขยายเวลาการใช้งบประมาณในระดับปัจจุบันออกไปในระยะสั้น ซึ่งเป็นการ “เตะถ่วง” ปัญหาออกไปก่อน พวกเขายังพอใจกับสถานการณ์ปัจจุบัน เนื่องจากรัฐบาลทรัมป์ได้ดำเนินการลดการใช้จ่ายด้วยตนเอง โดยไม่ผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรส
ด้านพรรคเดโมแครตต้องการให้การปฏิบัติเช่นนี้ยุติลง และต้องการข้อตกลงที่แน่นอนเพื่อต่ออายุเงินอุดหนุนประกันสุขภาพของรัฐบาลสำหรับผู้มีรายได้น้อยซึ่งจะหมดอายุในปลายปีนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่รีพับลิกันยังคงลังเลที่จะทำ
การต่อสู้เรื่องการชัตดาวน์ครั้งนี้เป็นเรื่องของการเมืองมากกว่านโยบาย พรรครีพับลิกันเชื่อว่าสามารถกุมความได้เปรียบทางการเมือง เนื่องจากโดยปกติแล้วพรรคที่ เรียกร้องเงื่อนไข แลกกับการเปิดรัฐบาล (ในกรณีนี้คือเดโมแครต) มักจะได้รับเสียงตำหนิจากสาธารณชนมากที่สุดเมื่อเกิดการชัตดาวน์
อย่างไรก็ตาม เดโมแครตเชื่อว่า ประเด็นด้านสุขภาพ เป็นประเด็นที่พวกเขาได้เปรียบ และต้องการให้การถกเถียงมุ่งเน้นไปที่การที่ชาวอเมริกันหลายล้านคนจะสูญเสียความสามารถในการจ่ายค่าประกันสุขภาพหรือไม่
สิ่งที่ทำให้สถานการณ์ซับซ้อนขึ้นคือ รีพับลิกันจำนวนมากดูเหมือนจะพอใจกับการปิดหน่วยงานรัฐบาลที่อาจยืดเยื้อ นายรัสส์ วอยต์ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณทำเนียบขาว เพิ่งเวียนบันทึกภายในที่อธิบายว่า รัฐบาลทรัมป์จะใช้การชัตดาวน์เพื่อลดค่าใช้จ่ายและการจ้างงานของรัฐบาลกลางในระยะยาว โดยหน่วยงานหรือโครงการที่ไม่จำเป็นในช่วงปิดทำการอาจถูกปิดอย่างถาวร ซึ่งเป็นการขยายการลดงบประมาณของ “Doge” หรือกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล
แต่ผู้นำเดโมแครตมองว่าการข่มขู่นี้เป็นเพียงกลยุทธ์เจรจา โดยวุฒิสมาชิกชูเมอร์เรียกสิ่งนี้ว่า “ความพยายามข่มขู่” และกล่าวว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ “ไล่เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางมาตั้งแต่วันแรก” ไม่ใช่เพื่อปกครอง แต่เพื่อข่มขู่
การชัตดาวน์ครั้งล่าสุดในช่วงวาระแรกของทรัมป์ กินเวลานานถึง 35 วัน ซึ่งเป็นสถิติที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา และสิ้นสุดลงเมื่อเจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศซึ่งทำงานโดยไม่ได้รับค่าจ้างเริ่มหยุดงานประท้วง ซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อการเดินทางทางอากาศของประเทศ การชัตดาวน์ยังคงเป็นเหตุการณ์ที่คาดเดาไม่ได้และยังไม่มีใครรู้ว่าการต่อสู้ครั้งนี้จะจบลงเมื่อใดและอย่างไร. aussie-gamer
Leave a Reply