นฤมล มั่นใจ ดัน วันที่ 22 ส.ค.2568 ที่โรงแรม

นฤมล มั่นใจ ดัน

นฤมล มั่นใจ ดัน

นฤมล มั่นใจ ดัน พ.ร.บ.การศึกษา สำเร็จในสภาฯ ชุดนี้ ขอช่วยกันดูแลสุขภาพจิตเด็กยุคออนไลน์

“นฤมล” เปิดสมัชชาการศึกษา ครั้งที่ 3 ลั่น ปฏิรูปการศึกษาต้องร่วมมือทุกส่วน มั่นใจ ดัน พ.ร.บ.การศึกษาฯ สำเร็จในสภาฯ ชุดนี้ ขอช่วยกันดูแลสุขภาพจิตเด็กยุคออนไลน์

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 22 ส.ค.2568 ที่โรงแรม ที.เค.พาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดการประชุมสมัชชาสภาการศึกษาระดับชาติ ครั้งที่ 3 (𝟑𝐫𝐝 𝐍𝐚𝐭𝐢𝐨𝐧𝐚𝐥 𝐄𝐝𝐮𝐜𝐚𝐭𝐢𝐨𝐧 𝐀𝐬𝐬𝐞𝐦𝐛𝐥𝐲) ภายใต้หัวข้อ “𝐅𝐮𝐭𝐮𝐫𝐞 𝐋𝐞𝐚𝐫𝐧 𝐅𝐮𝐭𝐮𝐫𝐞 𝐄𝐚𝐫𝐧 เรียนรู้เพื่อก้าวสู่อนาคต” โดยมีผู้แทนองค์กรทุกภาคส่วนจากทั่วประเทศ ประกอบด้วย สมัชชาหรือสภาการศึกษาจังหวัด หน่วยงานด้านการศึกษาภาครัฐ ภาคธุรกิจเอกชน ภาคศาสนา ภาควิชาการและวิชาชีพ ภาคประชาสังคม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคประชาชน เข้าร่วมการประชุมเสวนาฯ

มั่นใจผลักดันกฎหมายสำเร็จ

โดย ศ.ดร.นฤมล ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง Flexible Education การศึกษาที่ยืดหยุ่นเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต ระบุว่า วันนี้ถือเป็นนิมิตหมายอันดีที่ทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายและแผนการขับเคลื่อนงานด้านการศึกษาของประเทศไทย ซึ่งการปฏิรูปการศึกษาไม่ใช่เรื่องที่พรรคการเมืองหรือนักการเมืองจะสามารถกำหนดได้ เราเป็นเพียงส่วนในการช่วยขับเคลื่อนเท่านั้น เช่น ร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติอยู่ทั้งหมด 7 ร่าง ประกอบด้วยร่างของกระทรวงศึกษาธิการ ร่างจากฝ่ายรัฐบาล ร่างฝ่ายค้าน และร่างที่เสนอโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเรื่องนี้ทางฝ่ายการเมืองจะต้องร่วมกันผลักดันให้ร่างกฎหมายดังกล่าวสำเร็จภายในสภาชุดนี้ พร้อมทั้งเปิดรับข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วนเพื่อให้กฎหมายมีความสมบูรณ์ ครอบคลุม และตอบโจทย์การพัฒนาประเทศ

หวังทุกคนมีส่วนร่วม

รมว.ศึกษาธิการ ยังกล่าวต่อว่า ยังกล่าวถึงความสำคัญของการจัดสมัชชาการศึกษา ที่ได้ดำเนินการต่อเนื่องมาแล้วกว่า 3 ปี และจัดครบแล้ว 15 จังหวัด โดยตั้งเป้าจะจัดให้ครบทั้ง 77 จังหวัด เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกพื้นที่ได้สะท้อนความคิดเห็น ได้ถกเถียง และร่วมกันกำหนดทิศทางการศึกษาไทย เพราะทุกท่านคือกำลังสำคัญในการปฏิรูปการศึกษา ไม่ว่าจะเป็น เครือข่ายการศึกษา ครู นักเรียน และภาคประชาชน

“ดิฉันเห็นว่าการมีความเห็นต่างถือเป็นเรื่องดีในสังคมประชาธิปไตย เพราะนำไปสู่การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่สร้างสรรค์ และช่วยตกผลึกนโยบายการศึกษาที่ทุกคนมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง” ศ.ดร.นฤมล กล่าว

เน้นเรียนรู้ มากกกว่าท่องจำ

ศ.ดร.นฤมล ยังกล่าวต่อถึง การวัดผลการเรียนรู้ของเด็กไทยว่า ไม่ควรยึดติดกับการท่องจำอีกต่อไป แต่ควรพัฒนาเครื่องมือ และวิธีการใหม่ ๆ โดยอาศัยเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่มีอยู่มากมาย เพื่อให้การประเมินสะท้อนถึงการเรียนรู้จริง ประสบการณ์จริง และการทำงานได้จริง เช่นเดียวกับวิชาประวัติศาสตร์และหน้าที่พลเมือง ที่ตนเคยพูดไปว่าเป็นหัวใจสำคัญที่อยากให้เด็กไทยได้เรียนรู้ ตั้งแต่ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยไม่ใช่เพียงการจำเนื้อหา แต่ต้องเปิดโอกาสให้เด็กคิด วิเคราะห์ ตั้งคำถาม และถกเถียงในห้องเรียน เพื่อเข้าใจเหตุผลของการตัดสินใจทางประวัติศาสตร์ และเรียนรู้รากฐานระบอบประชาธิปไตยแบบไทย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งจะช่วยลดความขัดแย้งทางความคิดในสังคมได้

ตั้งสหกรณ์กลางรวมหนี้สินครู นฤมล มั่นใจ ดัน

นอกจากนี้ ศ.ดร.นฤมล ยังกล่าวถึงปัญหาของครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยเฉพาะเรื่องภาระหนี้สินครู ที่เป็นอุปสรรคต่อการทุ่มเทเวลาและพลังให้กับการสอน โดยเปิดเผยว่า วานนี้ (21 ส.ค.) ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ได้เห็นชอบแนวทางการตั้งสหกรณ์กลางเพื่อรวมหนี้ครูและหาแนวทางแก้ไขอย่างเป็นระบบ รวมถึงการเร่งขับเคลื่อนปรับเกณฑ์วิทยฐานะครูให้มีความสมเหตุสมผลและเป็นธรรมมากยิ่งขึ้น นฤมล มั่นใจ ดัน

เสริมภูมิคุ้มกันทางอารมณ์ให้เด็ก

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวอีกว่า อีกสิ่งหนึ่งที่น่าห่วงไม่แพ้กันคือ สุขภาพจิตและความเข้มแข็งทางอารมณ์ของเด็กยุคใหม่ ที่ต้องเผชิญแรงกดดันและการตัดสินบนโลกออนไลน์ ซึ่งส่งผลให้หลายคนมีความเปราะบางทางอารมณ์มากกว่าเด็กยุคก่อน ในส่วนนี้กระทรวงศึกษาฯ ได้มีมาตรการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางอารมณ์ และจัดนักจิตวิทยาเพื่อช่วยดูแลเด็กอย่างจริงจังแล้ว aussie-gamer

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *